Friday, May 17, 2024
Latest:
ข่าวเด่น

น้ำยังท่วมถ้ำหลวง ใช้เวลาสำรวจ 5 ชม.รอสำรวจใหม่อีก 1 เดือน

เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายกมลไชย คชชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 พลเรือตรีอาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ กองทัพเหรือ หรือหน่วยซีล ได้นำคณะเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ หน่วยซีล ทีมกู้ภัย เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) มิสเตอร์เวิร์น อันสเวิร์ธ นักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษ พร้อมเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องจำนวน 35 นาย เข้าไปทำการสำรวจภายในถ้ำหลวง

ล่าสุดในช่วงบ่ายคณะทีมสำรวจทั้งหมดได้เดินทางกลับออกมาทางปากถ้ำ โดยภารกิจในการถ่ายภาพและบันทึกข้อมูลอุปกรณ์ที่คงค้างตามจุดต่างๆ ตั้งแต่ปากถ้ำไปจนถึงสามแยกภายในถ้ำระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ถือว่าเสร็จสิ้นด้วยดีแต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเดินหน้าสำรวจต่อจากสามแยกแล้วเลี้ยวซ้ายไปทางหาดพัทยาหรือพัทยาบีช รวมถึงเนินนมสาว ซึ่งเป็นจุดที่พบน้องๆ ทีมหมูป่าอะคาเดมี่ ทั้ง 13 คนได้

เนื่องจากพบว่าบริเวณช่องที่เชื่อมจากสามแยกไปทางเส้นทางซ้ายเต็มไปด้วยตะกอนทรายทำให้ยากต่อการเดินทางผ่านรวมทั้งยังมีน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งหากจะผ่านจุดดังกล่าวไปได้ต้องใช้อุปกรณ์ดำน้ำที่มีความพร้อมเหมือนตอนที่มีปฏิบัติการช่วยเหลือทีมหมูป่าทำให้เจ้าหน้าที่ได้สำรวจถึงบริเวณดังกล่าวแล้วจึงพากันเดินทางกลับรวมแล้วใช้เวลาปฏิบัติการประมาณ 5 ชั่วโมงโดยออกเดินทางถึงปากถ้ำเวลา 13.30 น.จากเดิมที่คาดว่าจะใช้เวลากว่า 6-8 ชั่วโมง

ทั้งนี้ นายจงคล้าย นายกมลไชย และพลเรือตรีอาภากร ได้นำเจ้าหน้าที่ไปถึงบริเวณสามแยกได้จำนวน 21 นาย แต่เนื่องจากไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้และออกซิเจนภายในถ้ำเบาบางรวมทั้งมีน้ำไหลออกจากหินงอกหินย้อยตามผนังอยู่ตลอดเวลา จึงให้ทั้งหมดทะยอยเดินทางกลับออกไปทางเดิม และได้สรุปผลการสำรวจพบว่าภายในมีขวดอัดอากาศวางเรียงรายอยู่ตลอดรายทาง โดยมีอยู่ที่โถงที่ 3 ประมาณ 100 ถัง เปลสนาม โถงที่ 2 ประมาณ 100 กว่า ในโถงทั้ง 2 แห่งยังพบเปลสนามและสายเชือกที่ใช้สำหรับเชื่อมโยงเส้นทางถึงกันไปตลอดรายทางโดยพบระหว่างโถงที่ 2-3 มากที่สุดเพราะโถงที่ 2 มีความยาวและภูมิประเทศเต็มไปด้วยหน้าผาและซอกหินผาสูงต่ำจำนวนมาก สำหรับเปลสนามและสายเชือกดังกล่าวได้ใช้สำหรับขนลำเลียงเยาวชนทั้ง 13 คนออกมา เพราะเป็นเส้นทางที่ยากลำบากในการเดินทาง

นอกจากนี้ในโถงทั้ง 2 แห่งยังพบเครื่องสูบน้ำขนาดต่างๆ และสำหรับโถงที่ 3 นั้นพบสายส่งออกซิเจนมากที่สุดรวมทั้งพบกระดาษฟรอยด์ที่หน่วยใช้ประโยชน์ พบอาหารพาวเวอร์เจล วิทยุสมัยสงครามโลกทั้ง 2 ที่ใช้สื่อสาร เพราะเคยเป็นสถานที่ที่เจ้าหน้าที่เคยใช้เป็นศูนย์บัญชาการภายในถ้ำด้วย

โดยนายจงคล้าย กล่าวว่า สำหรับภารกิจในครั้งนี้ถือว่าเจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปตรวจพบวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ และได้บันทึกข้อมูลรวมทั้งถ่ายภาพเอาไว้ตั้งแต่ปากถ้ำไปจนถึงสามแยกเอาไว้แล้ว และคาดว่าหากจะเข้าไปจากสามแยกไปยังบริเวณจุดที่พบน้องๆ ทีมหมูป่า ทั้ง 13 คน คงจะใช้ระยะเวลาอีกประมาณ 1 เดือนเพื่อให้น้ำแห้งและเตรียมอุปกรณ์กำลังพลให้มีความพร้อมต่อไป ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ จะดำเนินการอย่างไรต่อไปนั้นคงต้องรอรายงานให้ทางอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้รับทราบเพื่อหารือและดำเนินการต่อไป

ทางด้านพลเรือตรีอาภากร กล่าวว่า การเข้าไปสำรวจถ้ำหลวงครั้งนี้เป็นเหมือนการรำลึกถึงการปฏิบัติการเดือน มิ.ย.-ก.ค.2561 ที่ผ่านมา โดยสิ่งที่พบเห็นภายในถ้ำทำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ร่วมกันเข้าไปปฏิบัติการ เพราะมีอุปกรณ์ต่างๆ อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งก็ยังสงสัยอยู่ว่าพวกเราขนเข้าไปได้อย่างไร อย่างไรก็ตามการเข้าไปในถ้ำครั้งนี้ถือว่าสะดวกกว่าช่วงปฏิบัติการที่มีความยากลำบากกว่ามากกระนั้นการจะเข้าไปให้เลยช่วงสามแยกเข้าไปอีกซึ่งยังคงมีเครื่องมืออุปกรณ์ที่ตกค้างอยู่ภายในคงต้องรอให้ระดับน้ำภายในลดลงกว่านี้.